วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553

รับน้อง....แม่โจ้

สกอ.เปิดชื่อ 3 มหาวิทยาลัย เจอข้อร้องเรียนรับน้องโหดสุด "มช.-ม.แม่โจ้-สจล." สรุป 17 รูปแบบกิจกรรมทารุณ-รุนแรง-ไม่สร้างสรรค์ ทำพิเรนทร์เอาเม็ดแมงลักขยี้ใส่ผม ถอดเสื้อนอนกลิ้งบนก้อนน้ำแข็ง อ้าง น.ศ.ใหม่บาดเจ็บเข้าโรงพยาบาลเพียบ

รายงานข่าวจากกระทรวง ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมว่า สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ระบุมีผู้ร้องเรียนกรณีรุ่นพี่จัดรับน้องรุนแรงและไม่สร้างสรรค์ ผ่านเว็บไซต์ www.rubnong.mua.go.th จำนวนมากนั้น และได้รายงานต่อนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ สกอ.เสนอเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ขอให้ป้องกันและแก้ไขปัญหาการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ การจัดประชุมเชียร์ รวมทั้งรายงานพฤติกรรมรูปแบบการจัดกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม 17 ข้อ มีรายละเอียดดังนี้

1.ทารุณน้อง ทำโทษน้องเกินกว่าเหตุจนเกิดอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ เอ็น ข้อ เช่น ทำโทษให้ลุกนั่ง 300 ครั้ง ให้วิ่งทั้งที่ป่วย บางคนต้องนำส่งโรงพยาบาลรักษาอาการเครียด เกร็ง และบาดเจ็บทางร่างกาย

2.มีการข่มขู่ ถ้าไม่ร่วมกิจกรรมจะกลั่นแกล้ง ตัดรุ่น ไม่ให้เครื่องหมายประจำคณะ (เกียร์ตุ้งติ้ง) เสื้อช็อป

3.มีการว้าก ใช้วาจาข่มขู่ ตะคอกใส่ด้วยคำหยาบ รุ่นพี่มีกลิ่นสุราและบุหรี่ขณะทำกิจกรรม

4.บังคับให้น้องดื่มสุรา พาน้องเที่ยวผับ โรงแรมม่านรูด

5. กิจกรรมลามกพิเรนทร์ เช่น เอาเม็ดแมงลักขยี้ใส่ผมและเอานมราด ให้ถอดเสื้อแล้วนอนกลิ้งบนก้อนน้ำแข็งกลางแดด แต่งตัวแปลกๆ วิ่งรอบสนาม คณะ หรือสระน้ำ

6.ทำโทษโดยการขังห้องมืด ทำร้าย ตบ เตะ ต่อย พ่นควันบุหรี่ใส่

7.วิ่งและนั่งตัวตรงก้มหน้ารับฟังคำด่าจากรุ่นพี่ครั้งละหลายชั่วโมง

8.ปลุกมารับน้องเวลา 24.00 น.

9.รุ่นพี่แสดงท่าทางหาเรื่อง ชี้หน้า ลักษณะท้าตีท้าต่อย

10.ข่มขู่น้องให้สาบาน ห้ามบอกใครๆ เรื่องรับน้องแม้แต่ผู้ปกครอง ไม่เช่นนั้นจะถูกกลั่นแกล้ง

11.รับน้องนอกสถานที่หากไม่ไปจะถูกกลั่นแกล้งและเก็บค่าใช้จ่ายสูงถึง 2,500 บาท รวมทั้งให้ดื่มสุรา

12.รับน้องหอพักหนักมาก และยาวนาน รุ่นพี่จัดกิจกรรมในลักษณะกลั่นแกล้งเพื่อความสะใจมากกว่าความรักเอ็นดูน้อง

13. ให้ขอรายชื่อรุ่นพี่ให้ครบจำนวนที่สั่งไว้หากขาดจะทำโทษด้วยการบูมทั้งคณะ 40-50 ครั้ง และข่มขู่ ถ้าไม่ครบจะจะซ่อมเป็นรายบุคคลจนกว่าจะขึ้นปี 2 และไม่รับประกันความโหด

14.กฎระเบียบไม่มีเหตุผลบังคับให้รุ่นน้องใส่เสื้อติดกระดุมคอตลอดปีหนึ่ง

15.ให้น้องใหม่ถือแฟ้มสัญลักษณ์รุ่น ตลอดเวลาที่อยู่ในมหาวิทยาลัย เพื่อตรวจสอบว่าเป็นน้องใหม่คณะใด

16.ให้นักศึกษาใหม่แขวนป้ายชื่อในทุกพื้นที่ภายในจังหวัด เมื่อเดินทางไปทำธุระ ไม่เว้นวันหยุด และ

17.ให้น้องใหม่คลานบนพื้นซีเมนต์ เพื่อให้หัวเข็มขัดที่มีตราสัญลักษณะของคณะขัดสีกับพื้นจนขึ้นเงา ทำให้หน้าอก และแขนถลอกเป็นแผล

รายงาน ข่าวแจ้งอีกว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้น คือ 1.รับน้อง และประชุมเชียร์เลิกดึก ทำให้เรียนไม่รู้เรื่อง หลับในเวลาเรียน ไม่มีเวลาทำการบ้าน และอ่านหนังสือ 2.บางแห่งรับน้อง และประชุมเชียร์หนักมาก ต้องดร็อป หรือลาออกไปหลายราย 3.มีอาการบาดเจ็บทั้งร่างกาย และจิตใจ จนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 4.กิจกรรมโหดร้าย ไม่มีเหตุผล ล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ใครไม่ยอมจะถูกกันไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรม ยุยงให้เพื่อนรังเกียจ ตัดออกจากรุ่น และ 4.บ่มเพาะระบบเผด็จการ

รายงาน ข่าวแจ้งว่า สำหรับข้อเสนอดังกล่าวอยากให้ขณะจัดกิจกรรมรับน้อง หรือประชุมเชียร์ทุกครั้ง ควรมีอาจารย์อยู่ด้วย ควรตรวจสอบกฎระเบียบที่รุ่นพี่กำหนดว่าเหมาะสมหรือไม่ และดูแลกิจกรรมอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ นายจาตุรนต์ยังได้รับรายงานข้อมูลทางการแพทย์ที่สรุปยอดผู้ป่วยเข้ารับการ รักษาเป็นข้อมูลตัวอย่างที่คาดว่าจะมีผลจากกิจกรรมรับน้อง และประชุมเชียร์ ปรากฏว่าในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม มีนิสิตเข้ารับการรักษาพยาบาลด้วยอาการเครียด และบาดเจ็บทางกล้ามเนื้อจำนวนมากกว่าเดือนอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด เช่น Hyperventitation 16 คน Paptic ulcer 82 คน Dyspepsia 139 คน Other and unspecified abdominal pain 31 คน

"นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยที่มีนิสิตนักศึกษาร้องเรียนว่ารุ่นพี่จัดกิจกรรมรับน้องรุนแรง และไม่สร้างสรรค์มากที่สุด ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)"

นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ดูเหมือนการรับน้องใหม่ในปีนี้จะเบาลง แต่จริงๆ ยังรุนแรง เพียงแต่เงียบ เพราะมีการปกปิดกันหนัก เนื่องจากปีก่อนมีปัญหา และเล่นกันหนัก ทำให้ปีนี้ใช้วิธีดำดินกันหมด และยิ่งทำให้เกิดความรุนแรงยิ่งขึ้น เชื่อว่าปีต่อไปกิจกรรมรับน้องที่รุนแรงจะยังไม่ยุติ ถ้าผู้ปกครอง นักศึกษาไม่ใส่ใจ นอกจากนี้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆ มีความสำคัญมากต้องดูแลให้ดีเพราะที่ผ่านมามหาวิทยาลัยไม่ดูแลและเอาใจใส่ ให้ดี